สายไฟที่ขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นสายแข็ง หรือสาย Power เช่น สาย THW, CV, NYY คือ สายไฟที่ตัวนำทำจากทองแดงแกนเดี่ยวหรือมีจำนวนเส้นฝอยน้อย ส่วน

มัลติ แปลว่า หลากหลาย

คอร์ แปลว่า จำนวนเส้นย่อยในสาย

สายมัลติคอร์ คือ

สายไฟที่ประกอบด้วยจำนวนคอร์ตั้งแต่ 2 คอร์ขึ้นไปและมีฉนวนภายนอกหุ้มรวมทุกๆคอร์อีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้สะดวกต่อการติดตั้งในหน้างาน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเส้นฝอยขนาดเล็กทำให้มีความอ่อนตัวสูง เหมาะสำหรับเชื่อมต่อเพื่อนำสัญญาณระหว่างอุปกรณ์วัดและคอมพิวเตอร์ ลักษณะของสายมัลติคอร์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมนั้นจะมีด้วยกันหลายรูปแบบตามความหลากหลายของสภาพหน้างานในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่ง

สิ่งที่ทำให้สายมัลติคอร์แต่ละชนิดมีตวามแตกต่างกันหลักๆนั้น ก็คือ

  1. ชนิดของฉนวน
  2. การบิดและการตีเกลียว
  3. ชีลด์กันสัญญาณรบกวน
  4. ฉนวนภายนอก

อีกทั้งยังมีองค์ประกอบปลีกย่อยอีกหลายส่วนซึ่งทำให้สายมัลติคอร์มีความแตกต่างกัน เช่น

  1. การเคลือบดีบุกของตัวนำไฟฟ้า
  2. ความละเอียดของเส้นฝอยของตัวนำ
  3. ความถี่ในการพันของเกลียว
  4. ความถี่ในการพันของคอร์ หรือ กลุ่มสายไฟ
  5. การเพิ่มเส้นใยเพื่อให้สายไฟรับแรงดึงได้เพิ่มขึ้น
  6. การใส่สารต่างๆเพื่อป้องกันการกัดแทะที่เกิดจากสัตว์
  7. การใส่เกราะป้องกันแรงกระแทกทางกลจากภายนอก
  8. การใช้ฉนวนชนิดพิเศษเพื่อที่จะให้สายไฟปลอดภายเมื่อเกิดเพลิงไหม้
  9. การใช้วัสดุชนิดพิเศษเพื่อให้สายไฟสามารถใช้งานได้เมื่อเกิดเพลิงไหม้
และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆอีกมากมาย ดังนั้น สายมัลติคอร์ จึงมีความหลากหลายมากกว่าสาย Power ที่ขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดมาก และ นิกซ์ เคเบิ้ล นั้นก็มีสินค้าให้เลือกหลากหลายกว่า 15,000 SKU Model สายมัลติคอร์ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย โดยในแต่ละรุ่นนั้นเหมือนกันทุกประการ แตกต่างกันเฉพาะแค่ชื่อ เนื่องจากเป็นคนละแบนด์ Model มีดังต่อไปนี้  YSLY-JZ, JZ-500, OPVC-JZ, Olflex Classic 110 ซึ่งสายไฟทั้ง 4 รุ่นข้าง ต้นนี้ YSLY-JZ เป็นชื่อกลางส่วนอีก 3 ชื่อ ที่เหลือ เป็นชื่อเฉพาะของแต่ละแบนด์ ซึ่งสายมัลติคอร์ ข้างต้นนั้น เป็นสายไฟที่ฉนวนภายในและฉนวนภายนอกทำจาก PVC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การติดตั้งทั่วไป การติดตั้งที่ต้องการความอ่อนตัว สามารถทนน้ำมันและสารเคมีหลายๆชนิดได้ดีระดับหนึ่ง และมีขนาดพื้นที่หน้าตัดที่เล็กกว่าสาย VCT อยู่ 50-70%